.jpg?ip/crop/w670h402/q80/jpg)
เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ สิ่งแรกที่หลายคนถูกสอนกันมาตั้งแต่เด็กคือ "ให้หาผ้าชุบน้ำมาปิดจมูกและปาก" เพื่อกันควันไฟ แต่ในสถานการณ์จริงที่ทุกวินาทีคือความเป็นความตาย การทำแบบนั้นยังเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดอยู่หรือไม่? หรือแท้จริงแล้วมันคือความเชื่อที่อาจคร่าชีวิตคุณได้โดยไม่รู้ตัว
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและนักดับเพลิงสากลต่างยืนยันตรงกันว่า ในเหตุเพลิงไหม้ "ความเร็ว" ในการหนีคือสิ่งสำคัญที่สุด ไฟสามารถลุกลามจนท่วมห้อง (Flashover) ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
หากคุณเสียเวลาวิ่งไปที่ห้องน้ำ หรือห้องครัวเพื่อเปิดก๊อกน้ำชุบผ้า นั่นอาจหมายถึงการเสียโอกาสทองในการหนีรอด กฎเหล็กข้อแรกคือ "Get Out, Stay Out" (ออกไปให้เร็วที่สุด และอย่ากลับเข้าไป) ดังนั้น หากใกล้มือไม่มีน้ำ ให้คว้าผ้าแห้ง หรือเสื้อที่สวมอยู่มาปิดจมูกแล้วหนีทันที อย่ามัวแต่วิ่งหาน้ำ
อีกหนึ่งความจริงที่น่ากลัวคือ ในกองเพลิงที่มีอุณหภูมิสูงจัด ความร้อนสามารถทำให้น้ำในผ้าเดือดกลายเป็น "ไอน้ำ" (Steam) ได้อย่างรวดเร็ว
การเอาผ้าเปียกที่มีไอน้ำร้อนๆ มาแนบที่จมูกและปาก อาจส่งผลให้เกิดแผลพุพองที่ใบหน้า หรือร้ายแรงกว่านั้นคือไอน้ำร้อนจัดจะเข้าไปลวกระบบทางเดินหายใจและปอด ทำให้หายใจไม่ออกและได้รับบาดเจ็บสาหัสได้
หลายคนเข้าใจผิดว่าผ้าชุบน้ำจะช่วยกรองก๊าซพิษได้ แต่ความจริงคือ ผ้า (ไม่ว่าจะเปียกหรือแห้ง) สามารถกรองได้เพียง "เขม่าควัน" (Soot) หรือฝุ่นละอองขนาดใหญ่เท่านั้น
สิ่งที่ฆ่าคนในกองเพลิงส่วนใหญ่ไม่ใช่ไฟ แต่เป็นก๊าซพิษที่มองไม่เห็นอย่าง คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) หรือ ไฮโดรเจนไซยาไนด์ ซึ่งผ้าชุบน้ำ "ไม่สามารถกรองก๊าซเหล่านี้ได้เลย" การใช้ผ้าชุบน้ำจึงอาจสร้าง "ความรู้สึกปลอดภัยหลอกๆ" (False sense of security) ทำให้เรากล้าฝ่าควันเข้าไปจนเป็นอันตราย
แทนที่จะกังวลเรื่องหาผ้าชุบน้ำ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต:
การใช้ผ้าชุบน้ำไม่ใช่เรื่องผิด 100% หากคุณมีน้ำอยู่ในมืออยู่แล้ว แต่ "ห้ามเสียเวลาไปหาน้ำเด็ดขาด" เพราะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีมีค่าเท่ากับชีวิต และให้ระวังเรื่องไอน้ำร้อนลวกหากอยู่ในจุดที่ความร้อนสูง จำไว้เสมอว่า "ก้มต่ำ ปิดจมูก แล้วรีบหนี" คือคาถาที่ดีที่สุด
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
อ้างอิง
อัลบั้มภาพ 3 ภาพ